การย้ายสู่ระบบ Cloud ส่งผลต่อระบบเครือข่าย ความปลอดภัย และพื้นที่เก็บข้อมูล

การย้ายสู่ระบบ Cloud ส่งผลต่อระบบเครือข่าย ความปลอดภัย และพื้นที่เก็บข้อมูล

การย้ายสู่ระบบ Cloud มีความสำคัญสูงสุด ดังนั้นคุณจะแน่ใจได้อย่างไรว่าได้รับประโยชน์จากระบบ Public Cloud พร้อมทั้งลดต้นทุนและความเสี่ยง สิ่งนี้ทำให้เราเห็นถึงความสำคัญของความสอดคล้องของโครงสร้างพื้นฐาน และวิธีที่การย้ายสู่ระบบ Cloud ส่งผลต่อเครือข่าย, ความปลอดภัย และการจัดเก็บปริมาณงานที่คุณกำลังจะย้าย

การย้ายแอปของคุณไปยังโครงสร้างพื้นฐานในระบบ Cloud ที่สอดคล้องกับตำแหน่งที่แอปพลิเคชันของคุณทำงานอยู่ในปัจจุบัน ช่วยให้คุณสามารถเร่งเวลาเพื่อสร้างมูลค่าและลดความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างพื้นฐานได้ นี่เป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งที่จะต้องพิจารณาสำหรับธุรกิจของคุณที่สำคัญและแอปพลิเคชันที่ซับซ้อนอื่น ๆ ซึ่งจะต้องมีการปรับโครงสร้างใหม่ที่สำคัญเพื่อทำงานใน Public Cloud 

เมื่อคุณย้ายไปยังบริการโครงสร้างพื้นฐานชุดใหม่ในระบบ Public Cloud คุณจะสูญเสียการกำหนดค่าเครือข่าย, ความปลอดภัย และพื้นที่เก็บข้อมูลที่มีอยู่ ส่งผลให้การโยกย้ายช้าลงและมีประสิทธิภาพน้อยลง ในท้ายที่สุด การมีโครงสร้างพื้นฐานที่เหมือนกันสำหรับแอปพลิเคชันของคุณระหว่างระบบภายในองค์กรและ Public Cloud ช่วยให้คุณมีเส้นทางการย้ายข้อมูลที่รวดเร็วที่สุด มีความเสี่ยงต่ำที่สุดและคุ้มค่าที่สุด

ขอบคุณภาพประกอบจาก VMware

ด้วยโครงสร้างพื้นฐานที่สอดคล้องกัน คุณสามารถกำหนดนโยบายเครือข่าย, ความปลอดภัย และการจัดเก็บได้เพียงครั้งเดียว และคงไว้ซึ่งนโยบายเดียวกันเมื่อคุณย้ายแอปพลิเคชันของคุณระหว่างสภาพแวดล้อม Private Cloud สู่ Public Cloud หรือตำแหน่ง Edge นโยบายเหล่านี้เชื่อมโยงกับปริมาณงาน คุณจึงสามารถย้ายนโยบายเหล่านี้ไปยังตำแหน่งใดก็ได้ กี่ครั้งก็ได้โดยไม่สูญเสียความสอดคล้องนี้

ในบทความนี้ เราจะสรุปประโยชน์ของการรักษานโยบายและการกำหนดค่าเหล่านี้ในขณะที่ย้าย        แอปของคุณ และวิธีที่จะช่วยเร่งความเร็วในการย้ายข้อมูล 

ความท้าทายของการย้ายแอปพลิเคชันไปยังบริการโครงสร้างพื้นฐาน Cloud ใหม่

การเลือกย้ายแอปของคุณไปยังชุดบริการโครงสร้างพื้นฐานที่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง เช่น ระหว่างศูนย์ข้อมูลและ Public Cloud อาจทำให้เกิดความยุ่งยาก ไม่เพียงแต่จะมีราคาแพงและใช้เวลานานในการปรับโครงสร้างสำหรับสภาพแวดล้อมระบบ Cloud ดั้งเดิม แต่ในกระบวนการปรับโครงสร้างแอปพลิเคชันของคุณใหม่ การกำหนดค่าที่คุณใช้เวลาหลายปีในการสร้างเครือข่าย, ความปลอดภัย และพื้นที่เก็บข้อมูลจะต้องสร้างใหม่ด้วยเช่นกัน จากชั้นนำไปสู่การย้ายถิ่นที่มีราคาแพงกว่า, เสี่ยงกว่า และคล่องตัวน้อยกว่ามาก

ขอบคุณภาพประกอบจาก Slide Team

ระบบเครือข่าย

เมื่อทำการ Refactoring สำหรับ Public Cloud องค์ประกอบของเครือข่ายจำเป็นต้องเปลี่ยนแปลงการกำหนดเส้นทาง, DNS และที่อยู่ IP ของคุณ การใช้ผู้ให้บริการ Public Cloud หลายรายจะเพิ่มความซับซ้อนนี้ ซึ่งเกี่ยวข้องกับเครื่องมือต่างๆ สำหรับแต่ละ Cloud เวลาและการลงทุนส่วนใหญ่ที่คุณใส่ในเครือข่ายที่มีอยู่จะไม่ถูกส่งต่อระหว่างและหลังการย้ายของคุณ

ความปลอดภัย

ในกระบวนการปรับโครงสร้างใหม่ การกำหนดค่าความปลอดภัยที่คุณสร้างขึ้นมักจะเปลี่ยนแปลงหรือสูญหายอย่างมีนัยสำคัญ ใน Public Cloud  คุณจะต้องซื้อผลิตภัณฑ์ด้านความปลอดภัย, สร้างกฎ Firewall และสร้างความสามารถของคุณขึ้นใหม่เพื่อการปฏิบัติตามกฎระเบียบด้วยเครื่องมือและโครงสร้างพื้นฐานใหม่เหล่านี้

พื้นที่จัดเก็บ

สุดท้ายเมื่อคุณปรับโครงสร้างแอปพลิเคชันของคุณใหม่ คุณอาจสูญเสียนโยบายพื้นที่เก็บข้อมูลที่มีอยู่สำหรับความพร้อมใช้งาน, ประสิทธิภาพ และการเข้าถึง ซึ่งคุณต้องสร้างใหม่ในระบบ Public Cloud

ประโยชน์ของการย้ายแอปของคุณด้วยโครงสร้างพื้นฐาน Cloud ที่สม่ำเสมอ

ความท้าทายที่เราเพิ่งสรุปไปจะเพิ่มขึ้นตามปริมาณแอปพลิเคชันของคุณ ทีมของคุณอาจพร้อมที่จะจัดโครงสร้างกลุ่มแอปใหม่บางส่วนสำหรับระบบ Public Cloud  แต่สำหรับแอปที่สำคัญต่อธุรกิจซึ่งมีค่าใช้จ่ายสูงและใช้เวลาในการโยกย้าย คุณไม่จำเป็นต้องสูญเสียการกำหนดค่าเครือข่าย ความปลอดภัย และที่เก็บข้อมูลเพียงเพื่อไปที่ Cloud 

เมื่อคุณรักษาชั้นโครงสร้างพื้นฐานให้สอดคล้องกันระหว่างศูนย์ข้อมูลและ Public Cloud คุณสามารถหลีกเลี่ยงความยุ่งยากเหล่านี้ได้ทั้งหมด คุณสามารถเพิ่มการลงทุนที่คุณได้ทำไปแล้วในแอปพลิเคชันของคุณให้สูงสุด และรับประกันการโยกย้ายไปยังระบบ Cloud ที่คุ้มค่า รวดเร็ว และมีความเสี่ยงต่ำ ไม่เพียงเท่านั้นการรักษาโครงสร้างพื้นฐานของคุณให้สอดคล้องกันยังช่วยให้มีความยืดหยุ่นในการโยกย้ายไปยังผู้ให้บริการ Cloud ใดๆ ได้อย่างราบรื่น ทำให้คุณมีความคล่องตัวในเวลาที่เปลี่ยนแปลงไป