AnTuTu เว็บไซต์ทดสอบประสิทธิภาพมือถือและแท็บเล็ตชื่อดัง ออกมาเผยคะแนนทดสอบชิปประมวลผลรุ่นใหม่ล่าสุดของค่าย Apple อย่าง A16 Bionic ที่มาพร้อมกับ iPhone 14 Pro และ Pro Max ที่เปิดตัวอย่างเป็นทางการไปเมื่อช่วงกลางเดือนกันยายน ที่ผ่านมา โดยผลทดสอบชี้ชัดว่า
มันแรงกว่าชิปรุ่นก่อนราว 19% โดยเฉพาะประสิทธิภาพของหน่วยประมวลผลกราฟิกหรือ “จีพียู” (GPU) ที่แรงขึ้นกว่าเดิมถึง 28% แต่ถึงอย่างนั้นคะแนนทดสอบโดยรวมก็ยังแพ้ชิปเซ็ตตัวท็อปฝั่ง Android อย่าง Snapdragon 8+ Gen1 ที่ทำคะแนนทดสอบได้ดีกว่าพอสมควร
AnTuTu เผย ชิป A16 Bionic ใน iPhone 14 Pro Max ทำคะแนนได้ 972,936 คะแนน
AnTuTu ได้เผยผลการทดสอบชิปประมวลผล A16 Bionic ที่อยู่ใน iPhone 14 Pro และ Pro Max ซึ่งผลปรากฏว่า สามารถโกยแต้มจากการเทสไปได้ 978,147 และ 972,936 แต้ม ตามลำดับ เมื่อเทียบกับชิป A15 Bionic ที่อยู่ใน iPhone 13 Series
ก็จะพบว่าประสิทธิภาพโดยรวมแรงกว่าชิปรุ่นเก่าราว 19% โดยประสิทธิภาพของหน่วยประมวลผลกลาง หรือ “ซีพียู” (CPU) เพิ่มขึ้นราว 17% และในส่วนของประสิทธิภาพหน่วยประมวลผลกราฟิกหรือ “จีพียู” (GPU) แรงขึ้นกว่าเดิมถึง 28%
ทั้งนี้ เชื่อว่าปัจจัยสำคัญที่ทำให้ iPhone 14 Pro และ Pro Max สามารถโกยคะแนนไปได้เป็นกอบเป็นกำก็เพราะ มือถือรุ่นที่นำมาทดสอบนั้นเป็นรุ่นความจุ 1TB ทำให้สามารถเค้นประสิทธิภาพการทำงานออกมาได้อย่างเต็มที่ชนิดหยดสุดท้าย ซึ่งถือเป็นข้อได้เปรียบที่ iPhone 14 Pro และ Pro Max มีเหนือกว่า iPhone 14 รุ่นมาตรฐานที่มีรุ่นความจุสูงสุดเพียง 512GB เท่านั้น หรือห่างกันเกือบครึ่งหนึ่งเลยทีเดียว อีกทั้งชิป A16 ยังได้รับการอัพเกรดให้มีประสิทธิภาพสูงกว่า A15 อย่างเห็นได้ชัด ส่งผลให้ช่องว่างในการทดสอบของชิปทั้งสองรุ่นห่างกันมากขึ้นไปอีก
อย่างไรก็ตาม AnTuTu ยังเผยว่า แม้ชิป A16 Bionic ของ iPhone 14 Pro และ Pro Max จะแรงกว่า A15 Bionic ของ iPhone 13 Series อย่างเห็นได้ชัด แต่ก็ยังได้คะแนนน้อยกว่า ROG Phone6 มือถือระบบปฏิบัติการ Android ที่เป็นเรือธงของค่าย ASUS ซึ่งมาพร้อมชิปประมวลผลตัวท็อปอย่าง Snapdragon 8+ Gen 1 ขนาด 4 นาโนเมตร ความเร็วสูงสุดระดับ 3.2GHz เจ้าของตำแหน่งมือถือ Android ที่แรงที่สุดในโลกประจำเดือนสิงหาคม 2022 ที่ผ่านมา โดย ROG Phone6 สามารถทำคะแนนได้ทะลุล้าน โกยไปถึง 1,110,172 คะแนน อย่างไรก็ตาม ช่องวางคะแนนจากการทดสอบข้างต้นแทบจะไม่ส่งผลให้เกิดความแตกต่างในการใช้งานจริงมากนัก เพราะประสิทธิภาพของชิปเซ็ตในปัจจุบันพัฒนาไปเกินกว่าการใช้งานจริง พูดง่าย ๆ ว่า ระหว่างชิปคะแนน 9 แสน กับชิปคะแนน 1 ล้าน เวลาใช้งานจริงก็ลื่นไหลไม่ต่างกัน ข่าวเทคโนโลยี ข่าวเทคโนโลยีทั่วโลก ข่าว IT
(ขอบคุณภาพประกอบจาก beartai.com และ dealntech.com)