Ransomware ได้สะท้อนถึงความซับซ้อนและข้อจำกัดของการใช้งานไอที ซึ่งเราควรพิจารณาข้อจำกัดเหล่านั้น เนื่องจากเราต้องพึ่งพาระบบคอมพิวเตอร์ ที่มักจะมีพื้นฐานที่ค่อนข้างต่ำเมื่อพูดถึงเรื่องความปลอดภัยและความน่าเชื่อถือ
ตัวอย่างเช่น เว็บส่วนใหญ่สร้างขึ้นมาจากความไว้วางใจ โดยมีเรื่องความปลอดภัยเป็นพื้นฐานอันดับแรก แน่นอนว่าแต่ละเว็บมีการถูกแฮ็กอยู่เสมอ แต่ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายในการเรียกการจ่ายเงินค่าไถ่ แสดงให้เห็นว่า นอกจากการโจมตีที่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐและการจารกรรมทางอุตสาหกรรมแล้ว ผลกระทบยังอยู่ในขอบเขตจำกัด
การเติบโตของเงินดิจิตอลสร้างโอกาสของปัญหาทางไอทีจาก Ransomware มากขึ้น
แต่การเติบโตขึ้นของสกุลเงินดิจิทัล ซึ่งทำให้เกิดความยากลำบากต่อการติดตามทางการเงิน บวกกับความไม่มั่นคงโดยทั่วไปของระบบคอมพิวเตอร์จำนวนมาก และการที่เราต้องพึ่งพาระบบเหล่านี้ทั้งหมด ได้สร้างกระแสการเรียกค่าไถ่ที่สะดวกมากขึ้น ซึ่งขณะนี้ปัญหาไอทีนี้ได้กระทบกับบริษัทจำนวนมาก
การแก้ไขปัญหานี้ไม่ใช่เรื่องง่าย ฝ่ายบริหารของสหรัฐอเมริกาอาจกำลังอยากที่จะจัดการกับกลุ่ม Ransomware หลายกลุ่มที่ปฏิบัติการทางไอทีจากรัสเซีย แต่ก็เป็นเรื่องยากที่จะทำได้
จริงอยู่ที่สหรัฐอเมริกาสามารถพยายามทำลายโครงสร้างพื้นฐานที่พวกกลุ่มเหล่านี้ใช้ แต่นั่นก็ไม่ใช่ปัญหาที่เกิดขึ้น อย่างแรกเลย กลุ่มเหล่านี้ไม่มีโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ให้ถูกโจมตี และระบบที่พวกเขาใช้งานก็ถูกแทนที่ได้อย่างง่ายดาย นอกจากนั้นการกระทำนี้มีความเสี่ยงที่จะรบกวนระบบขององค์กรที่บริสุทธิ์ในต่างประเทศโดยไม่ได้ตั้งใจ ซึ่งโดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อต้องมีการดำเนินการกับรัสเซีย จะเป็นการยกระดับความตึงเครียดระหว่างประเทศขึ้นอีก
การจัดการการทางไอทีกับกลุ่ม Ransomware ต้องมีกระบวนการทางการเงินมาช่วย
เป็นไปได้มากว่าสหรัฐอเมริกาอาจพยายามกดดันทางการเงินอย่างเข้มงวดกับกลุ่ม Ransomware ซึ่งเป็นสิ่งที่ได้ทำไปแล้วโดยการยึดบิตคอยน์ที่จะส่งถึงพวกเขา เนื่องจากกลุ่มแก๊งเหล่านี้ล้วนแต่มีแรงจูงใจจากการหาเงิน ดังนั้นการลดความสามารถในการเรียกค่าไถ่หรือใช้ผลประโยชน์ที่ได้มาโดยมิชอบ จึงเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดในการลดกิจกรรมของพวกเขา
แต่การห้ามการจ่ายค่าไถ่อาจมีผลกระทบทางธุรกิจบ้าง คือเป็นการส่งผลกระทบเชิงบังคับให้บริษัทที่โชคไม่ดีต้องออกจากธุรกิจไปด้วย หากข้อมูลของพวกเขาถูกล็อคไว้ตลอดไป
ยุคของ Ransomware อาจจะสิ้นสุดลงในบางจุด แต่ส่วนใหญ่มักจะถูกแทนที่ด้วยความกังวลด้านความปลอดภัยอื่น อันที่จริงการเพิ่มขึ้นของข้อบกพร่องด้านความปลอดภัยของห่วงโซ่อุปทานทางไอที ซึ่งกำลังถูกนำไปใช้เพื่อแพร่กระจาย Ransomware อย่างน้อยก็เป็นปัญหาใหญ่
ปัญหา Ransomware ยังเป็นเครื่องเตือนใจว่า เราพึ่งพาเว็บและอินเทอร์เน็ตมากเกินไป และโครงสร้างพื้นฐานส่วนใหญ่นั้นกำลังสั่นคลอน หรือถูกยึดติดกับระบบหรือโค้ดที่คลุมเครือและเปราะบาง ดังนั้นแม้ว่าในอนาคต Ransomware อาจจะหมดไปหรือถูกลืมไปแล้ว แต่ความกังวลในเรื่องความปลอดภัยก็จะไม่มีทางหายไปจากโลกของไอที
ขอบคุณภาพประกอบจาก SOFIASQUARE , TREND MICRO , METACOMPLIANCE
#Ransomware #ข่าวเทคโนโลยี #ข่าวเทคโนโลยีทั่วโลก